ข่าวดีสำหรับพ่อค้า แม่ค้าหรือ ประชาชนทั่วไป ที่ไม่ได้ทำงานประจำและต้องการกู้สินเชื่อ วันนี้เรามีวิธีการสมัครสินเชื่อง่ายๆ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ให้วงเงินสูงถึง 2 แสนบาท กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 บาท – 200,000 บาท โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้น ลดดอก ธนาคารไทยเครดิตหวังช่วยให้คนค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงเงินทุนในระบบได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบ
จุดเด่นของสินเชื่อ
1.วงเงินสูงสุด 200,000 บาท
2.สินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Loan) ไม่มีระยะเวลาครบกำหนด แต่วงเงินจะมีการทบทวนต่ออายุหรือไม่ต่ออายุทุกปี
3.อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
4.ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน **สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะ
คุณสมบัติผู้สมัคร
1.บุคคลธรรมดา
2.สัญชาติไทยเท่านั้น
3.มีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี
4.อายุผู้กู้ที่เป็นที่เป็นเจ้าของธุรกิจต้องไม่เกิน 60 ปี
5.วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจเท่านั้น
6.ต้องมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพไม่ต่ำกว่า 1 ปี
7.ธุรกิจต้องมีสถานประกอบการชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
8.สถานที่ตั้งธุรกิจ ต้องอยู่ในตลาด ในระยะรัศมีไม่เกิน 15 กิโลเมตร จากสาขาของธนาคาร
เอกสารประกอบการสมัคร
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอสินเชื่อ
3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส
4.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้ามี)
5.เอกสารแสดงสถานภาพสมรส (ถ้ามี)
6.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรก
7.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรก
หมายเหตุ :
รายละเอียดการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่
วิธีแก้ปัญหาไม่มีทะเบียนการค้า แต่อยากกู้เงิน
แม้พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านแผงลอยจะได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องจดทะเบียนการค้า แต่ในแง่ของการทำธุรกรรมการเงิน หลายธนาคารมักกำหนดให้ใบทะเบียนการค้าเป็นเอกสารสำคัญในการยื่นกู้ เหตุนี้แม่ค้า พ่อค้า จึงพยายามหาวิธีอื่นมาช่วยให้กู้สินเชื่อได้ ในกรณีที่ไม่มีทะเบียนการค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งมี 3 วิธีดังนี้
1.เตรียมให้พร้อมเอกสารสั่งซื้อจากคู่ค้า ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุญาตประกอบกิจการ หลักฐานชิ้นสำคัญไม่แพ้ใบทะเบียนการค้า เครื่องมือยืนยันอาชีพของพ่อค้าแม่ค้า
2.ใช้บัญชีรายรับ เงินเข้า 6 เดือนติด เป็นหลักฐานยืนยืนความมั่นคงของอาชีพขายของ
3.รูปถ่ายหน้าร้านและจำนวนสินค้าที่ขายได้ อีกหนึ่งข้อบ่งชี้ความสามารถชำระหนี้ของแม่ค้าพ่อค้า
ข้อแนะนำวิธีขอสินเชื่ออย่างไรที่ทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น
1.ประวัติการผ่อนชำระ (เครดิตบูโร) ควรดี : เพราะธนาคารจะเข้าไปตรวจประวัติการชำระหนี้ของเรากับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) ถ้าหากเรามีประวัติการค้างชำระหนี้อื่นๆ อยู่ หรือมีประวัติชำระหนี้ไม่ตรงนัดหมาย โอกาสได้สินเชื่อก็น้อยลง ทางที่ดี เราควรชำระหนี้สินตามกำหนดทุกครั้ง และควรสะสางหนี้สินอื่นๆ ให้น้อยลง ก่อนยื่นขอสินเชื่อ
2.รายการเดินบัญชี : สำหรับการเดินบัญชีนับว่าเป็นเอกสารสำคัญที่ธนาคารจะใช้พิจารณาสถานะการเงินของท่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะว่าธนาคารจะดูว่าท่านมีรายได้เข้ามาประจำหรือไม่ และยังบอกถึงเงินหมุนเวียนในบัญชี ยิ่งถ้าเป็นคนไม่มีเงินเดือนประจำเช่นพ่อค้าแม้ค้าหรือกลุ่มคนฟรีแลนซ์ต่างๆ ท่านจำเป็นต้องนำเงินมาฝากเข้าระบบ ส่วนคนที่มีเงินเดือนน้อยไม่ควรใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต้องเก็บเงินเอาไว้ เพราะการถอนเงินจนหมดบัญชี เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ธนาคารแทบจะปิดประตูสำหรับการปล่อยกู้โดยทันที
3.สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (DSR) : หากดูจากประวัติการผ่อนชำระจะสำคัญต่อสัดส่วนหนี้ เพราะธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อและวงเงินให้เท่าไร ขึ้นอยู่กับสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt Service Ratio) โดยสัดส่วนที่เหมาะสมนั้น ภาระหนี้ทั้งหมด รวมถึงภาระหนี้สำหรับการกู้บ้านครั้งนี้ ต้องไม่เกิน 30% – 40% ของรายได้ เช่น ถ้าคุณมีเงินเดือน 20,000 บาท/เดือน และมีหนี้ผ่อนชำระอื่นรวม 5,000 บาท คุณจะสามารถมียอดชำระต่อเดือนได้อีก [(20,000 x 40%) – 5,000] = 3,000 บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ต่ำเกินไป ธนาคารก็จะไม่อนุมัติสินเชื่อให้ แต่ถ้าลดภาระหนี้อื่นๆ ลง ก็อาจขอสินเชื่อผ่านได้
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก moneygury