วันที่ 1 พฤษภาคม 2564

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)

ค่ารถโดยสารสาธารณะ

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น

  • ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564

ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน

เป็นการต่ออายุจากมาตรการเดิม โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564

  • กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการปัจจุบัน
  • กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ ในวงเงิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน หากใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าทั้งหมด

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย

วิธีลงทะเบียน

ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ต่ออายุให้จากมาตรการเดิม โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564

ทั้งนี้ หากผู้ถือบัตรคนจนใช้น้ำประปาเกินวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย

วิธีลงทะเบียน

ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค

วันที่ 22 พฤษภาคม 2564

เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ตามปกติผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนจะได้รับการโอนเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท/เดือน เข้าบัญชีธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ครม. มีมติให้เพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน สำหรับผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้

  • 800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
  • เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีประมาณวันที่ 22 ของทุกเดือน

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.

หรือ ที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ในวัน-เวลาราชการ