เรียกได้ว่าตอนนี้สถานการณ์โควิด 19 ยังไม่หยุดระบาดในประเทศไทย

ยอดติดเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี ทำให้ตอนนี้สถานกักตัวเริ่มเต็มทุกๆที่แล้ว

ส่วนตอนนี้ทางภาครัฐได้ออกนโยบายการสวมใส่แมสให้เป็นเคสตัวอย่าง

คดีจับแม่ค้าขายกะทิ ไม่สวมหน้ากากอนามัย ที่อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ข้อสรุปแล้ว ผบช.ภ. 1 สั่งยกเลิกปรับ 500 บาท แจงอัตราค่าปรับต่ำสุดคือ 6,000 บาท แต่ให้ฝ่ายผู้ต้องหาร้องขอให้ศาลปรับแทน เพราะเชื่อว่าค่าปรับน่าจะต่ำกว่านี้ สุดท้าย ตร.พาส่งศาลใช้ดุลพินิจปรับตามคำร้องขอ จันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 15.09 น.

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปรากฏภาพเอกสารค่าปรับเป็นเงิน 500 บาทของพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 25 เม.ย. ในความผิดฐานไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ขณะอยู่นอกเคหสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรือเดินทางไปสถานที่สาธารณะฯ ว่า

กรณีดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นเรื่องที่ คณะกรรมการอำเภอบางปะหัน มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน

ไปตรวจสอบหลังพบว่า พ่อค้าแม่ค้าขายกะทิ ในตลาดสดแห่งหนึ่งไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย

ซึ่งขัดกับคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวนให้เปรียบเทียบปรับ

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน เข้าใจว่ามีอำนาจตามกฎหมายควบคุม โ ร ค

ให้สามารถเปรียบเทียบปรับได้เอง จึงสั่งปรับเป็นเงิน 500 บาท ซึ่งหลังจากทราบตนได้ขี้แจงไปว่า

กรณีนี้พนักงานสอบสวนต้องปรับในอัตราขั้นต่ำเป็นเงิน 6,000 บาท เพราะตามกฎหมายควบคุม

โ ร ค ติ ด ต่อและตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดอัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท

พนักงานสอบสวนไม่สามารถปรับเป็นเงิน 500 บาทได้

ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาขอให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนส่งฟ้องศาลแขวง เพื่อให้ศาลฯ ใช้ดุลยพินิจ

ในการสั่งปรับแทน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเชื่อว่าน่าจะปรับได้ต่ำกว่าเงิน 6,000 บาท โดยกรณีนี้จึงใช้อำนาจของ

ผบช.ภ.1 สั่งเพิกถอนการเสียค่าปรับ 500 บาทไปแล้ว โดยให้ส่งศาลฯ พิจารณา ไปแล้ว

พร้อมตำหนิพนักงานสอบสวนที่จะไปโดยพละการ อย่างไรก็ตามได้กำชับไปยังตำรวจภูธร 9 จังหวั

ดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางเดียวกัน

พล.ต.ท.อำพล ยังกล่าวถึงกรณีมีคำถามเกี่ยวกับการขับรถยนต์คนเดียวโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย

เข้าข่ายความผิดกฎหมายไหม ซึ่งหากตีความตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ถือว่าผิด เพราะแม้ว่าจะอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว แต่คำสั่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจาย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นการยับยั้งการแพร่กระจาย จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตีความเป็นอย่างอื่น เพราะหากมีความผิดตำรวจก็จำเป็นจะต้องดำเนินคดี

โดยยืนยันว่า ตำรวจมีการใช้ดุลยพินิจ ไม่ใช่จ้องที่จะเข้าไปจับปรับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยอย่างเดียว แต่ดูที่เจตนา หรือกรณีมีการกระทำความผิด หรือได้รับการร้องเรียน ว่ามีการฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยบ่อยครั้งในพื้นที่สาธารณะ ตำรวจจึงจะเข้าไปบังคับใช้กฎหมาย